อาหารกล่องกลับมาได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงเวลาที่มีการระบาดของ Covid – 19 อย่างรุนแรงในประเทศไทย เพราะว่าทางภาครัฐประกาศนโยบายห้ามลูกค้านั่งทานอาหารในร้าน ทำได้แค่เพียงซื้ออาหารกลับบ้าน ซึ่งนโยบายนี้ทำให้ร้านอาหารต่างๆ รวมถึงผู้บริโภคจำเป็นต้องปรับตัวในเรื่องของการขายอาหาร และการทานอาหาร โดยในบทความนี้จะมาแนะนำถึง 5 เรื่องที่ควรรู้ในการเลือกซื้ออาหารกล่อง เพื่อให้สามารถเลือกซื้ออาหารกล่องได้อย่างปลอดภัย
1. เลือกกล่องที่มาจากวัสดุธรรมชาติ
กล่องอาหารนั้นมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ หลากหลายวัตถุดิบ ซึ่งวัสดุที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนั้นคงหนีไม่พ้นกล่องอาหารที่ทำมาจากโฟม หรือพลาสติก ซึ่งกล่องอาหารที่ผลิตจากวัสดุทั้ง 2 ชนิดนี้กลับเป็นกล่องอาหารที่มีความปลอดภัยมากที่สุดถ้าวัสดุที่นำมาผลิตไม่ได้ผ่านความปลอดภัยในระดับ Food Grade ซึ่งเป็นมาตรฐานรับรองว่าวัสดุเหล่านั้นมีความปลอดภัยสำหรับการใช้กับอาหาร
โดยกล่องโฟมสีขาวทรงสี่เหลี่ยม หรือถ้วยโฟมสีขาวที่เราคุ้นตากันดีนั้นเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงสำหรับการใช้บรรจุอาหาร โดยเฉพาะอาหารร้อน เพราะว่ากล่องโฟมส่วนมากนั้นไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยที่จะนำมาใช้กับอาหารนั่นเอง และเมื่อทานอาหารจากกล่องโฟมที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านี้อย่างต่อเนื่องก็จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ได้จากการที่มีสารเคมีปะปนลงมาในอาหาร ไม่ว่าจะเป็น สารสไตรีน (styrene) สารเบนซิน (benzene) ซึ่งจะมีผลในการทำลายระบบฮอร์โมนของร่างกาย มีผลต่อระบบประสาท ระบบไหลเวียนของเลือด และยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย
นอกจากจะมีผลเสียสะสมในร่างกายแล้วนั้นกล่องโฟมเหล่านี้ยังส่งผลร้ายต่อธรรมชาติอีกด้วย เพราะว่าการย่อยสลายตามธรรมชาตินั้นใช้เวลานานมาก รวมไปถึงนำมา Recycle เพื่อใช้งานใหม่ก็ทำได้ยาก
ดังนั้นผู้บริโภคควรเลือกอาหารกล่องจากร้านอาหารที่ใช้บรรจุภัณฑ์ซึ่งมาจากวัสดุธรรมชาติประเภทต่างๆ ซึ่งเป็นมิตรมากกว่าบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากโฟม หรือพลาสติก ได้แก่อาหารกล่องที่ใช้กล่องผลิตมาจากชานอ้อย เยื่อไผ่ มันสำปะหลัง ซึ่งกล่องอาหารเหล่านี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ใช้งานแทนกล่องโฟม หรือกล่องพลาสติกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ทำให้เกิดผลเสียอีกด้วย
2. เลือกกล่องอาหารที่นำมาใช้ซ้ำได้
กระแสในเรื่องของการอนุรักษ์ธรรมชาติ กระแสเรื่องวิกฤตโลกร้อน ไปจนถึงกระแสในเรื่องการนำวัสดุต่างๆ กลับมาใช้ซ้ำได้กำลังเป็นกระแสที่ทั่วโลกให้การยอมรับ และตระหนักถึงเรื่องเหล่านั้น ทำให้ในปัจจุบันมีร้านอาหารจำนวนมากที่ขายอาหารกล่องโดยที่กล่องอาหารนั้นผลิตมาจากวัสดุต่างๆ ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ซึ่งผู้บริโภคควรเลือกซื้ออาหารจากร้านเหล่านั้น
โดยอาหารกล่องเหล่านั้นส่วนมากจะใช้เป็นกล่องพลาสติกที่ผ่านมาตรฐานการใช้งานกับอาหารมาบรรจุอาหาร ทำให้มีความคงทนแข็งแรง ปลอดภัย อีกทั้งยังมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่นกล่องพลาสติกที่สามารถใส่ในไมโครเวฟได้ ทำให้ผู้บริโภคสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้ง และกล่องเหล่านี้ยังใช้เวลาย่อยสลายไม่นาน อีกทั้งยังสามารถนำกลับไป Recycle ได้ง่าย
ซึ่งนอกจากจะเป็นการลดปริมาณขยะแล้ว ผู้บริโภคยังสามารถประหยัดเวลา และประหยัดเงินในการซื้อภาชนะต่างๆ ได้อีกด้วย เพียงแค่เลือกซื้ออาหารกล่องที่บรรจุมาในกล่องอาหารที่สามารถนำมาใช้ซ้ำได้
3. เลือกซื้ออาหารกล่องที่มั่นใจในคุณภาพ
การเลือกซื้ออาหารกล่องเพื่อนำมาทานนั้นสำหรับหลายๆ คนอาจจะเรียกได้ว่าเป็นกิจวัตรประจำวันเนื่องจากไม่สะดวกกับการปรุงอาหารทานเองในที่พัก หรือด้วยสาเหตุอื่นๆ ซึ่งผู้บริโภคแต่ละคนก็จะมีแหล่งซื้ออาหารกล่องที่ซื้อเป็นประจำ ซึ่งอาจจะเป็นร้านอาหารในพื้นที่ใกล้บ้าน หรือใกล้ที่ทำงาน ซึ่งถ้าเป็นการซื้อทานเป็นประจำนั้นผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าอาหารจากร้านที่เลือกซื้อมานั้นมีความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรสชาติ ความสะอาด บรรจุภัณฑ์
แต่ถ้าต้องเลือกซื้ออาหารกล่องจากร้านที่ไม่คุ้นเคยแล้วนั้น สิ่งที่ผู้บริโภคควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือเรื่องของความสะอาด ซึ่งถ้าเป็นการไปเลือกซื้ออาหารด้วยตัวเองอาจจะสังเกตได้จากความสะอาดโดยรวมของร้าน การแต่งตัวของคนขาย การจัดวางอาหาร ซึ่งเรื่องเหล่านี้ผู้บริโภคต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะส่งผลต่อสุขภาพของตัวเองเมื่อนำอาหารเหล่านั้นมาทาน ถ้าอาหารที่ไม่สะอาด ไม่ได้คุณภาพ เมื่อนำมาทานก็อาจจะทำให้อาการป่วยได้
ส่วนการเลือกซื้ออาหารผ่านช่องทางออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบันนั้น ซึ่งร้านอาหารส่วนมากจะนำส่งมาให้ในรูปแบบของอาหารกล่อง ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้ออาหารจากร้านด้วยช่องทางออนไลน์นั้น ผู้บริโภคควรเข้าไปดูเรื่องราวต่างๆ ของร้านอาหารที่ได้มีผู้ใช้บริการคนอื่นๆ มาให้ความเห็นไว้ รวมไปถึงดูรูปแบบของกล่องอาหารที่ทางร้านจัดส่งมาว่าได้มาตรฐานหรือไม่ เพียงเท่านี้ผู้บริโภคก็จะสามารถมั่นใจได้ระดับหนึ่งถึงเรื่องคุณภาพของอาหารกล่องที่จะสั่งมาทานนั่นเอง
4. ต้องทานในเวลาที่เหมาะสม
สำหรับอาหารกล่องนั้นจะเป็นอาหารที่เมื่อซื้อมาจะไม่ได้ทานในทันที ยกตัวอย่างเช่นซื้อมาในตอนเช้าเพื่อที่จะทานช่วงพักกลางวัน ซื้อในระหว่างทางกลับบ้านเพื่อมาทานเป็นมื้อเย็น หรือสั่งจากบริการ Delivery ก็จะมีระยะเวลาในการจัดส่งอาหาร ซึ่งเรื่องระยะเวลานั้นอาจจะมีผลต่อคุณภาพ และรสชาติของอาหาร ทำให้การเลือกซื้ออาหารกล่องเพื่อนำมาทานนั้นจำเป็นต้องคำนึงถึงระยะเวลาก่อนที่จะได้ทานด้วย เพราะอาหารบางประเภทถ้าวางทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานเกินไปโดยไม่มีการเก็บรักษาที่ดีก็อาจจะทำให้อาหารบูดเสีย หรือรสชาติเปลี่ยนไป
ดังนั้นการซื้ออาหารกล่องควรทานในระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่ควรทิ้งไว้นานจนเกินไป ถ้าจำเป็นต้องทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานควรมีการจัดเก็บให้เหมาะสม อย่างเช่นการนำไปใส่ไว้ในตู้เย็น เมื่อถึงเวลาที่ต้องการทานค่อยนำมาอุ่น ส่วนการสั่งอาหารแบบ Delivery นั้นควรเลือกผู้ให้บริการที่ใช้การจัดส่งด้วยกล่องเก็บอุณหภูมิ เพราะว่าจะช่วยให้อาหารนั้นมีอุณหภูมิที่เหมาะสมในขณะที่นำอาหารมาส่ง
5. ต้องมีความสะดวกในการทาน
การเลือกซื้ออาหารกล่องมาทานในชีวิตประจำวันนั้นสิ่งที่เห็นได้ชัดคือเรื่องของความสะดวก ไม่ต้องเสียเวลาในการปรุงอาหารด้วยตัวเอง ทำให้ผู้บริโภคจำเป็นจะต้องเลือกร้านอาหารที่ทำอาหารกล่องแล้วทานได้สะดวก โดยสามารถทานจากล่องได้เลย หรือมีภาชนะที่เหมาะสมเตรียมมาให้ด้วย เพราะอย่าลืมว่าสิ่งสำคัญอีกหนึ่งเรื่องของอาหารกล่องคือการที่สามารถทานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองภาชนะเพิ่มเติม
อีกหนึ่งตัวเลือกที่ผู้บริโภคไม่ควรมองข้ามเมื่อต้องการที่จะเลือกซื้ออาหารกล่องคืออาหารกล่องที่มีวางขายอยู่ในร้านสะดวกซื้อต่างๆ เนื่องจากอาหารกล่องเหล่านั้นถูกออกแบบมาให้มีความสะดวกในการทาน ผ่านกระบวนการผลิตในรูปแบบของอุตสาหกรรมที่ทันสมัย อีกทั้งยังมีมาตรฐานความปลอดภัยรับรอง ทำให้ผู้บริโภคสามารถทานได้ด้วยความมั่นใจ
ซึ่งอาหารกล่องที่วางขายในร้านสะดวกซื้อนั้นส่วนมากจะเป็นแบบแช่แข็ง ทำให้หลายๆ คนมองว่ารสชาติของอาหารนั้นจะไม่อร่อยเท่าอาหารปรุงใหม่ แต่ถ้ามองในเรื่องของความสะดวก และความปลอดภัยแล้วนั้น อาหารกล่องในรูปแบบนี้จัดว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับผู้ที่ต้องเลือกทานอาหารกล่องในชีวิตประจำวัน เพราะว่านอกจากจะให้ทางร้านอุ่นมาพร้อมทานแล้ว ยังสามารถซื้อมาเก็บไว้ในตู้เย็นในอุณหภูมิที่เหมาะสมได้เป็นเวลานาน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยนั่นเอง
จากบทความนี้จะเห็นได้ว่าเรื่องของอาหารกล่องนั้นยังมีรายละเอียดต่างๆ ที่ทางผู้บริโภคจำเป็นที่จะต้องใส่ใจ เพราะรายละเอียดเหล่านี้ส่งผลโดยตรงกับสุขภาพของผู้บริโภคนั่นเอง ซึ่ง “5 เรื่องควรรู้ในการเลือกซื้ออาหารกล่อง” ที่ได้นำมาแนะนำนั้น เชื่อได้ว่าจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้ออาหารประเภทนี้ได้อย่างปลอดภัย ได้อาหารที่มีคุณภาพ รวมไปถึงมีความสะดวกมากขึ้นอย่างแน่นอน