ในปัจจุบันธุรกิจ Catering เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มาแรง และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากธุรกิจประเภทนี้คือตัวช่วยในการสร้างความสะดวกในกับผู้ที่ต้องการจัดงานเลี้ยงประเภทต่างๆ ไม่ให้ต้องมาวุ่นวายกับการเตรียมอาหาร หรือเป็นกังวลกับการบริการอาหารให้กับผู้ที่มาร่วมงาน แต่ก่อนที่จะเลือกใช้บริการ Catering ในการจัดงานนั้น ควรทำความรู้จักกับรูปแบบของการบริการได้จากบทความนี้
1. Catering คืออะไร
Catering นั้นคือการจัดเลี้ยง ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มาแรง โดยธุรกิจนี้จัดว่าเป็นส่วนประกอบหนึ่งของอุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่ม ซึ่งความพิเศษของธุรกิจ Catering คือการให้บริการอาหาร และเครื่องดื่มในสถานที่ต่างๆ ตามแต่จะได้รับการว่าจ้าง โดยไม่จำเป็นต้องให้บริการอยู่แต่เฉพาะพื้นที่ของผู้ให้บริการนั่นเอง โดยบริการ Catering นั้นจะครอบคลุมการให้บริการจัดเลี้ยงหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นงานจัดเลี้ยงขนาดเล็ก งานจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ งานเลี้ยงรับรอง หรืออาหารระหว่างการประชุม เป็นต้น โดยผู้ให้บริการ Catering นั้นอาจจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม หรือผู้ที่ให้บริการในการจัดเลี้ยงโดยเฉพาะ ซึ่งไม่มีพื้นที่จัดเลี้ยงเป็นของตัวเองก็ได้
2. Catering มีกี่ประเภท
การแบ่งประเภทของ Catering นั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ การจัดเลี้ยงในสถานที่ และการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ ซึ่งการจัดเลี้ยงภายในสถานที่นั้นหมายความว่าเป็นการจัดเลี้ยงที่อยู่ในพื้นที่ของผู้ให้บริการ Catering นั่นคือภายในโรงแรม หรือร้านอาหาร เป็นการบริการอาหาร / เครื่องดื่มภายในสถานที่นั่นเอง ส่วนการจัดเลี้ยงนอกสถานที่นั้นคือการที่ผู้ให้บริการ Catering นำอาหาร / เครื่องดื่ม ออกไปให้บริการในสถานที่อื่นๆ ตามแต่ที่จะได้ตกลงกับผู้ว่าจ้าง ไม่ใช่เป็นการให้บริการภายในสถานที่จองตัวเอง
3. Catering ให้บริการจัดเลี้ยงในรูปแบบใดบ้าง
สำหรับการให้บริการ Catering นั้นเรียกได้ว่าครอบคลุมการจัดเลี้ยงในทุกรูปแบบ และมีต้องมีการพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ ซึ่งรูปแบบของ Catering ที่ได้รับความนิยมนั้นได้แก่
- การจัดเลี้ยงแบบ Banquet หรือการจัดเลี้ยงแบบเป็นทางการ ซึ่งการจัดเลี้ยงแบบนี้ส่วนมากจะเป็นงานที่รายละเอียดเยอะ มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
- การจัดเลี้ยงแบบ Cocktail เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการจัดเลี้ยงที่ผู้บริโภคนิยมใช้บริการของ Catering เนื่องจากเป็นการจัดเลี้ยงที่สะดวก เมนูต่างๆ ในการจัดเลี้ยงรูปแบบนี้จะมีขนาดพอดีคำ ทานได้ง่าย
- การจัดเลี้ยง Coffee Break คือการให้บริการเครื่องดื่มร้อน / เย็นประเภทต่างๆ พร้อมของว่างในขณะที่มีการประชุม สัมมนา หรือทำกิจกรรมอื่นๆ โดยนิยมจัดในช่วงเวลาสาย และช่วงเวลาบ่าย เพื่อไม่ให้ผู้ที่มาร่วมงานนั้นหิวระหว่างมื้ออาหารนั่นเอง
- Snack Box / อาหารกล่อง การให้บริการ Catering ในรูปแบบนี้คือการที่ผู้ให้บริการจัด Set อาหารไม่ว่าจะเป็นอาหาร / ขนม / น้ำดื่ม หรือน้ำผลไม้ พร้อมอุปกรณ์การทานอาหารไว้ในกล่องเพื่อให้สามารถหยิบทานได้ทันที เหมาะสำหรับการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องใช้ความรวดเร็ว หรือไม่มีความสะดวกในเรื่องสถานที่ โดยอาหารชนิดต่างๆ นั้นมีหลากหลายชนิด ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บริโภค
- การจัดเลี้ยงบุฟเฟต์ การจัดเลี้ยงในรูปแบบนี้เป็นการจัดเลี้ยงที่ทางเจ้าภาพนิยมใช้บริการ Catering มากที่สุด เนื่องจากบุฟเฟต์นั้นจำเป็นต้องเตรียมอาหาร / เครื่องดื่ม เป็นจำนวนที่เหมาะสมกับปริมาณของผู้ที่มาร่วมงาน ถ้าเจ้าภาพจัดการด้วยตัวเองก็อาจจะเกิดความยุ่งยาก หรือความผิดพลาดได้ ดังนั้นการจัดเลี้ยงบุฟเฟต์ส่วนมากจึงใช้บริการ Catering
การจัดเลี้ยงโต๊ะจีน เป็นรูปแบบการจัดเลี้ยงที่เรียกได้ว่าเป็นบริการของ Catering ทั้งหมด เพราะว่าไม่มีเจ้าภาพคนไหนที่จะจัดเตรียมการจัดเลี้ยงในรูปแบบนี้ด้วยตัวเอง เพราะการจัดเลี้ยงโต๊ะจีนนั้นต้องเตรียมสิ่งต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหาร / เครื่องดื่มจำนวนมาก อุปกรณ์ในการทานอาหาร โต๊ะเก้าอี้
4. เทคนิคในการเลือกผู้ให้บริการ Catering
การเลือกผู้ให้บริการ Catering สำหรับงานเลี้ยงประเภทต่างๆ ที่ต้องการจัด เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจมาก เพราะว่าคุณภาพของผู้ให้บริการจะส่งผลต่อความประทับใจของผู้ที่มาร่วมงานโดยตรง ดังนั้นเจ้าภาพจึงจำเป็นต้องพิจารณาผู้ให้บริการ Catering แต่ละรายอย่างละเอียด โดยสามารถพิจารณาได้ตามหัวข้อต่างๆ ดังนี้
- ชื่อเสียงของผู้ให้บริการ การเลือกใช้บริการ Catering นั้นต้องดูในเรื่องชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการด้วย เพราะเรื่องของชื่อเสียง และความน่าเชื่อจะช่วยสร้างความมั่นใจในอันดับแรกให้กับเจ้าภาพได้ ว่าผู้ให้บริการรายนี้เป็นผู้ให้บริการที่สามารถไว้วางใจได้
- หาตัวเลือกให้มากที่สุด ผู้ให้บริการ Catering ในปัจจุบันนั้นมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ว่าจ้างนั้นควรจะหาข้อมูลของผู้ให้บริการหลายๆ ราย เพื่อที่จะได้เปรียบเทียบในเรื่องต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบริการ เรื่องของราคา เรื่องของรสชาติอาหาร ซึ่งการมีตัวเลือกของผู้ให้บริการ Catering หลายรายจะทำให้ผู้ว่าจ้างสามารถเลือกผู้ให้บริการที่ตรงกับความต้องการมากที่สุดได้นั่นเอง
- เลือกผู้ให้บริการที่มีความชำนาญเฉพาะทาง การจัดเลี้ยงแต่ละรูปแบบนั้นมีความแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอาหาร รูปแบบของงาน วิธีการเสิร์ฟอาหาร รวมไปถึงจำนวนของผู้ที่มาร่วมงาน ดังนั้นเมื่อเจ้าภาพตัดสินใจได้ว่าจะเลือกจัดงานเลี้ยงประเภทไหน ให้เลือกผู้ให้บริการ Catering ซึ่งมีความชำนาญในรูปแบบการจัดเลี้ยงนั้นโดยเฉพาะ เนื่องจากจะมีความเข้าใจในรูปแบบ และขั้นตอนต่างๆ ของการจัดเลี้ยงมากกว่านั่นเอง ยกตัวอย่างเช่นถ้าต้องการจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีน ก็ควรหาผู้ให้บริการที่ชำนาญเรื่องโต๊ะจีนโดยเฉพาะ หรือการจัดเลี้ยงแบบ Coffee Break ก็ต้องเลือกใช้บริการ Catering ที่มีความชำนาญในเรื่องของ Coffee Break นั่นเอง
ควรทดลองชิมอาหาร เมื่อมีตัวเลือกของผู้ให้บริการ Catering ในใจแล้ว สิ่งที่ผู้ว่าจ้างควรจะต้องทำคือการทดลองชิมอาหารนั่นเอง เพราะว่าเรื่องรสชาติของอาหารที่นำมาใช้ในงานนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยถ้าเจ้าภาพมีความสะดวกในการเดินทางก็ควรจะไปพบผู้ให้บริการ Catering เพื่อพูดคุยในเรื่องรายละเอียดของอาหาร และทดลองชิมอาหารในเมนูที่เลือกไว้ ว่ามีรสชาติเป็นอย่างไร แต่ถ้าผู้ว่าจ้างไม่สะดวกก็อาจจะให้ทาง Catering นั้นส่งอาหารมาให้ทดลองชิมได้ เมื่อได้ทดลองชิม และมีความพึงพอใจแล้วจึงค่อยตกลงว่าจ้างอย่างเป็นทางการ
5. ข้อควรระวังสำหรับผู้ให้บริการ Catering
ธุรกิจ Catering นั้นเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ดังนั้นผู้ให้บริการจำเป็นต้องมีการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ รวมไปรักษามาตรฐานในการให้บริการด้านต่างๆ ให้มีมาตรฐาน โดยเรื่องพื้นฐานที่ผู้ให้บริการ Catering จำเป็นต้องระวังได้แก่
- เข้าใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงของกระแส เนื่องจากการจัดเลี้ยงนั้นเป็นเรื่องของสมัยนิยม ทำให้รูปแบบการจัดเลี้ยงนั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผู้ให้บริการต้องเจ้าถึงกระแสที่กำลังมาให้รวดเร็ว รวมถึงมีทางถอยเมื่อกระแสนั้นซาลง
- ต้องมีความชัดเจนในข้อตกลง ธุรกิจ Catering นั้นคือการทำงานบนพื้นฐานความต้องการของลูกค้า ซึ่งในระยะเวลาที่เตรียมงานหลังจากได้ตกลงกันแล้วนั้น ลูกค้าอาจจะอยากเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในการให้บริการ ซึ่งผู้ให้บริการต้องมีความชัดเจนกับลูกค้าว่าสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง ต้องแจ้งล่วงหน้ากี่วัน อาจจะใช้เป็นเอกสารสัญญาก็ได้ เพราะทุกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลต่อการจัดเตรียมวัตถุดิบ และสิ่งของต่างๆ สำหรับการทำงาน
- ต้องมีความรับผิดชอบ สิ่งสำคัญที่สุดของการให้บริการ Catering คือความรับผิดชอบ ซึ่งเมื่อได้ตกลงกับลูกค้าแล้วผู้ให้บริการจำเป็นต้องทำตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัดในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลา คุณภาพอาหาร คุณภาพการให้บริการ การดูแลทำความสะอาด การรับผิดชอบความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งถ้าผู้ให้บริการมีความรับผิดชอบ และใส่ใจในงานที่ได้รับ เชื่อได้ว่าลูกค้าจะเกิดความประทับใจอย่างแน่นอน
จะเห็นได้ว่าการให้บริการ Catering นั้นเป็นเรื่องที่มีควรสนใจในรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งผู้ว่าจ้าง หรือผู้ให้บริการ เพราะรายละเอียดต่างๆ ในธุรกิจนี้จะช่วยให้ผู้ว่าจ้างสามารถตัดสินใจเลือกใช้บริการได้อย่างมั่นใจ และทางผู้ให้บริการก็จะได้เข้าใจในเรื่องความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อว่า 5 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับบริการ Catering ในบทความนี้จะสร้างความรู้ และความเข้าใจให้กับผู้อ่านได้เป็นอย่างดี