1. ความเป็นมาของโต๊ะจีน
การกินอาหารแบบจีนนั้นเป็นวัฒนธรรมการกินอาหารที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนานคาดว่ามีมาตั้งแต่สมัยยุคกรุงศรีอยุธยา ซึ่งมีชาวจีนเข้ามาติดต่อค้าขาย รวมไปถึงตั้งรกรากอยู่ในแผ่นดินสยามเป็นจำนวนมาก โดยวัฒนธรรมการกินโต๊ะจีนนั้นเป็นรูปแบบการกินอาหารของชาวจีนที่นิยมนั่งล้อมโต๊ะพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวในระหว่างการกินอาหาร เพื่อให้มีการพูดคุยกันในครอบครัว มีความรักใคร่กลมเกลียว ถ้าเป็นในกลุ่มเพื่อนฝูง หรือเพื่อนร่วมงานก็จะมีการถามไถ่สารทุกข์ หรือการพูดคุยในเรื่องการทำงาน รวมไปถึงการเจรจาธุรกิจระหว่างการกินอาหารด้วย
2. จุดเริ่มต้นของการเลี้ยงโต๊ะจีน
ในเรื่องของความนิยมสำหรับการจัดเลี้ยงอาหารในวาระต่างๆ ด้วยการรับจัดเลี้ยงโต๊ะจีนนั้น ควรมีสาเหตุมาจากการจัดเลี้ยงของบรรดาคนรวยในยุคก่อน เนื่องจากการจัดเลี้ยงโต๊ะนั้นเป็นเรื่องที่หรูหรา ราคาแพง เป็นสิ่งบ่งบอกถึงสถานะของเจ้าภาพได้เป็นอย่างดี ทำให้บรรดาผู้มีฐานะเมื่อต้องมีการจัดเลี้ยงจึงนิยมใช้บริการโต๊ะจีนจากภัตตาคารที่มีชื่อเสียง จนกลายมาเป็นค่านิยมในยุคหนึ่งว่าถ้าต้องการแสดงออกถึงหน้าตา หรือต้องการให้คนยอมรับว่ามีฐานะ เวลาจัดงานที่ต้องมีการเลี้ยงอาหารต้องใช้การจัดเลี้ยงในรูปแบบของโต๊ะจีนจากภัตตาคารต่างๆ เท่านั้น
3. ความหมายที่ซ่อนอยู่ในอาหาร
แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปถึงความหมายของอาหารจัดเลี้ยงบนโต๊ะจีนที่สืบทอดกันมานั้น จะเห็นได้ว่าอาหารต่างๆ บนโต๊ะจีนนั้นล้วนเป็นอาหารที่มีความหมายเป็นมงคลตามความเชื่อของชาวจีนโบราณนั่นเอง โดยมาตรฐานของอาหารตะจีนจะมีประมาณ 8 -10 เมนูมาให้ทาน เพราะมีความเชื่อว่าเลข 8 / 9 / 10 นั้นเป็นเลขมงคล และจะมีลำดับการเสิร์ฟอาหารแต่ละประเภทอย่างตายตัว โดยอาหารโต๊ะจีนนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 6 ประเภทคือ
- อาหารรองท้อง โดยอาหารประเภทนี้จะถูกเสิร์ฟเป็นประเภทแรก เพื่อให้ผู้มาร่วมงานได้รองท้องก่อนที่จะถึงอาหารประเภทต่อมา
- อาหารประเภทซุปข้น ซึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมจะเป็นกระเพาะปลา ซุปหูฉลาม ซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงร่างกาย และลดความเหนื่อยล้า
- อาหารประเภทข้าว โดยใจความสำคัญของอาหารประเภทนี้คืออาหารที่ส่วนประกอบของเนื้อสัตว์มงคล ได้แก่ หมูที่สื่อถึงความมั่งคั่งอุดสมบูรณ์ กุ้งที่สื่อถึงความมีอำนาจ วาสนา ไก่สื่อถึงความก้าวหน้า เป็นหมายถึงความร่มเย็นเป็นสุข ปลาหมายถึงความเงินทอง ความร่ำรวย
- อาหารประเภทซุปใส อาหารในประเภทนี้จะถูกนำมาเสิร์ฟเพื่อเป็นการล้างคาว หรือตัดเลี่ยนจากอาหารประเภทข้าวนั่นเอง ซึ่งนิยมใช้เป็นแกงประเภทต่างๆ อย่างเช่นแกงจืดเยื่อไผ่
- อาหารประเภทอิ่ม ด้วยความเชื่อของชาวจีนนั้นจะเสิร์ฟอาหารที่ดีที่สุดออกมาก่อน คือเมนูซุปข้น และเมนูข้าว ซึ่งอาจจะมีปริมาณไม่มาก เมนูนี้จะเป็นเมนูหนักที่ช่วยให้อิ่มท้อง โดยส่วนมากจะเป็นข้าวผัด ข้าวอบใบบัว หรือผัดหมี่
- อาหารหวาน สำหรับอาหารหวานนั้นก็จะเป็นเมนูสุดท้ายของโต๊ะจีน โดยเชื่อว่าจะช่วยให้ชีวิตมีความสุข ปราศจากความขมขื่น โดยส่วนมากจะเป็นผลไม้ในรูปแบบต่าง หรือขนมที่เป็นมงคลนั่นเอง
โดยเมนูอาหารประเภทต่างๆ ที่ถูกนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะจีนนั้นไม่ตายตัว อยู่ที่เจ้าภาพจะเป็นผู้เลือกเมนูอาหารต่างๆ ให้เหมาะสมกับงบประมาณ ทำให้การจัดเลี้ยงโต๊ะจีนแต่ละที่นั้นจะมีเมนูอาหารที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเมนูมาตรฐานของอาหารโต๊ะจีนนั้นล้วนแต่มีความหมาย ยกตัวอย่างเช่นซุปหูฉลาม ที่แสดงถึงความมั่งคั่งร่ำรวย เมนูกุ้งที่มีความถึงอำนาจบารมี เนื่องจากกุ้งถือว่าเป็นตัวแทนของมังกร หรือการเสิร์ฟหมูหัน ไก่ต้ม ปลานึ่ง เป็ดปักกิ่ง ที่จะเสิร์ฟมาทั้งตัวโดยไม่ตัดส่วนใดออก เนื่องจากเป็นการแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์
4. ความน่าประทับใจของโต๊ะจีน
จะเห็นได้ว่าเมนูอาหารต่างๆ บนโต๊ะจีนที่เราคุ้นเคยกันดีนั้นเป็นการแสดงถึงวัฒนธรรมทางด้านอาหารที่มีความละเอียดอ่อน ความพิถีพิถัน และความความเชื่อในเรื่องของอาหารมงคลที่สืบทอดกันมา ถ้ากล่าวถึงโต๊ะจีนที่มีคุณภาพแล้วนั้นการปรุงอาหารทุกขั้นตอนต้องมีความใส่ใจ วัตถุดิบต้องมีคุณภาพ การจัดจานต้องมีความสวยงามน่ารับประทาน ซึ่งเรื่องเหล่านี้จัดว่าเป็นหัวใจหลักของอาหารโต๊ะจีนซึ่งผู้ให้บริการ รวมถึงเจ้าภาพหลายๆ คนได้มองข้ามไป ไปเน้นในเรื่องของราคาที่ถูก จนลืมไปว่าโต๊ะจีนนั้นต้องเสิร์ฟอาหารที่มีคุณภาพ และมีลำดับขั้นตอนที่แสดงถึงวัฒนธรรมการกินอาหารจีน ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะสร้างความประทับให้กับผู้ที่มาร่วมงานได้เป็นอย่างดี
5. ข้อควรรู้ก่อนเลือกโต๊ะจีน
ด้วยปัจจัย และเรื่องราวต่างๆ ที่ถ่ายทอดลงบนเมนูอาหารหลากหลายประเภทของโต๊ะจีนนั้นทำให้วัฒนธรรมการกินอาหาร หรือการจัดเลี้ยงในรูปแบบนี้ได้รับความนิยมไปอย่างแพร่หลาย กลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไปได้อย่างสนิทแน่น แต่สิ่งสำคัญก่อนที่จะทำการจัดเลี้ยง หรือการทานในรูปแบบโต๊ะจีนคือการเลือกผู้ให้บริการที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ อาจจะเลือกจากผู้ให้บริการที่เราเคยไปทานมาก่อนแล้วมีรสชาติที่ถูกปาก หรือมีคนแนะนำมาว่าอาหารอร่อย และถ้าเป็นไปได้ก่อนจะตัดสินใจเลือกใช้บริการควรจะมีโอกาสชิมอาหารจากผู้ให้บริการรายนั้นเสียก่อน เพื่อความมั่นใจว่าจะได้อาหารที่มีคุณภาพ รสชาติดี ซึ่งจะสร้างความประทับใจให้กับการทานอาหารในมื้อนั้น หรือสร้างความพึงพอใจให้ผู้ที่มาร่วมงานได้เป็นอย่างดีนั่นเอง